LeddarTech นำเทคโนโลยีซอฟต์แวร์การฟิวชันข้อมูลดิบและการรับรู้เข้าร่วมงานยานยนต์ในเดือนพฤศจิกายนที่ Motor City Detroit

Posted on by admin

เมืองควิเบก, Oct. 20, 2022 (GLOBE NEWSWIRE) — LeddarTech® ผู้นำระดับโลกในการให้บริการเทคโนโลยีการตรวจจับ ADAS และ AD ที่ยืดหยุ่น แข็งแกร่ง และแม่นยำที่สุด ยินดีที่จะประกาศการเข้าร่วมในงานสำคัญด้านยานยนต์ในเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกนจำนวนสองงาน โดยจะสาธิตLeddarVision™การฟิวชันการตรวจจับข้อมูลดิบและโซลูชันการรับรู้อันเป็นเอกลักษณ์ที่ช่วยในการนำ ADAS และโซลูชันการขับขี่อัตโนมัติออกใช้งานในวงกว้าง

ทีมเทคนิคและผู้บริหารของ LeddarTech เฝ้ารอเวลาในการนำเทคโนโลยีของบริษัทออกสาธิตในงานที่กำลังจะจัดขึ้นทั้งสองงานนี้:

American Automotive Summit – 1-2 พฤศจิกายน – MGM Grand Detroit

American Automotive Summit เป็นเวทีประจำปีที่ใช้เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงในตลาดและเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับผู้นำด้านยานยนต์ทั้งในปัจจุบันและอนาคต คุณจะได้สร้างเครือข่ายกับเพื่อนของคุณมากกว่า 150 ราย สร้างสัมพันธ์กับผู้แสดงสินค้า รวมถึงเรียนรู้จากผู้มีอิทธิพลในอุตสาหกรรมและผู้บริหารระดับสูงที่เกี่ยวข้องกับการผลิต การปฏิบัติการ การออกแบบ วิศวกรรม คุณภาพของห่วงโซ่อุปทาน และนวัตกรรม

  • การนำเสนอของคุณ Frantz Saintellemy ประธานและ COO ของ LeddarTech เวลา 12:10 น. ตามเวลา EST ในวันที่ 2 พฤศจิกายน

    หัวข้อ: “เทคโนโลยีการตรวจจับและการรับรู้ – ความท้าทายและโซลูชันที่สำคัญสำหรับ ADAS และ AD”

    ในการนำเสนอนี้ คุณจะได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านไปสู่ยานพาหนะที่ใช้ซอฟต์แวร์ในการทำงาน รวมถึงบทบาทของเทคโนโลยีการตรวจจับและการรับรู้ในตัวยานพาหนะ

Tech.AD USA – 13-15 พฤศจิกายน – The Henry Hotel Detroit

Tech.AD USA เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนความรู้ชั้นนำในอเมริกาเหนือ ที่ประกอบด้วยผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่มีบทบาทอย่างแข็งขันในด้านระบบอัตโนมัติของยานพาหนะกว่า 250 ราย

LeddarTech นำเสนอ: LeddarVision เทคโนโลยีการฟิวชันเซ็นเซอร์ข้อมูลดิบและการรับรู้

  • บูธแสดงสินค้าของ LeddarTech: 1
    ผู้เชี่ยวชาญทางเทคนิคของเราจะสาธิตให้คุณเห็นว่า เทคโนโลยีการฟิวชันข้อมูลดิบจะสามารถช่วยลดชุดเซ็นเซอร์ที่แสนซับซ้อนและขจัดการใช้ฮาร์ดแวร์ เพื่อให้ลูกค้ามีความยืดหยุ่นในการปรับขนาดและส่งมอบ ADAS และ AD ที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นได้อย่างรวดเร็วได้อย่างไร

เกี่ยวกับ LeddarTech

LeddarTech ก่อตั้งขึ้นในปี 2007 โดยเป็นบริษัทซอฟต์แวร์ AD (ขับขี่อัตโนมัติ) และ ADAS (ระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง) สำหรับยานยนต์ที่นำเสนอโซลูชันการฟิวชันข้อมูลดิบและการรับรู้แบบครบวงจร ที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถแก้ปัญหาความท้าทายที่สำคัญได้ตลอดทั้งห่วงโซ่คุณค่า

เทคโนโลยีซอฟต์แวร์ระดับยานยนต์ของ LeddarTech มีชื่อว่า LeddarVision™ เป็นโซลูชันที่ยืดหยุ่น แข็งแกร่ง คุ้มราคา และใช้ข้อมูลจากเซ็นเซอร์ ซึ่งสามารถนำเสนอแบบจำลองสภาพแวดล้อม 3 มิติที่มีความแม่นยำสูงได้ ซอฟต์แวร์ที่ปรับขนาดได้นี้รองรับความอิสระของ SAE ในทุกระดับด้วย AI และอัลกอริธึมคอมพิวเตอร์วิทัศน์เพื่อผสานข้อมูลดิบจากเซ็นเซอร์ที่ใช้ในแอปพลิเคชัน L2-L5 การใช้งานการผสานข้อมูลดิบของ LeddarTech ช่วยให้สามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางขนาดเล็กมากบนท้องถนน ด้วยอัตราการตรวจจับที่ดีกว่าและมีสัญญาณเตือนลวงน้อยกว่าโซลูชัน “การฟิวชันวัตถุ” แบบเดิม นอกจากนี้ ระบบยังสามารถตรวจจับสิ่งกีดขวางแบบไม่จำแนกประเภทได้อีกด้วย ซึ่งจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยให้กับยานยนต์ไปอีกขั้นหนึ่ง

LeddarTech เป็นผู้รับผิดชอบในการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ ๆ ในแอปพลิเคชันด้านยานยนต์และการเคลื่อนที่ระยะไกลที่ทันสมัย ด้วยเทคโนโลยีทั้งที่จดสิทธิบัตรแล้วหรือที่รอการอนุมัติมากกว่า 140 รายการ ที่ช่วยเสริมขีดความสามารถ ADAS และการขับขี่แบบอัตโนมัติ

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ LeddarTech ได้ที่ www.leddartech.com และที่ LinkedIn, Twitter, Facebook และ YouTube

ติดต่อ:
Daniel Aitken รองประธานบริษัทฝ่ายการตลาดโลก ฝ่ายผู้ลงทุนและการสื่อสารสัมพันธ์ LeddarTech Inc.
โทร: + 1-418-653-9000 ต่อ 232 daniel.aitken@leddartech.com

รายชื่อติดต่อผู้ลงทุนสัมพันธ์: InvestorRelations@leddartech.com
https://investors.leddartech.com/

Leddar, LeddarTech, LeddarSteer, LeddarEngine, LeddarVision, LeddarSP, LeddarCore, LeddarEcho, VAYADrive, VayaVision, XLRator และโลโก้ที่เกี่ยวข้องเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนของ LeddarTech Inc. และบริษัทในเครือ แบรนด์ ชื่อผลิตภัณฑ์ และเครื่องหมายอื่น ๆ ทั้งหมดเป็นหรืออาจเป็นเครื่องหมายการค้าหรือเครื่องหมายการค้าจดทะเบียนที่ใช้เพื่อระบุผลิตภัณฑ์หรือบริการของเจ้าของที่เกี่ยวข้อง

รูปภาพประกอบของการแถลงนี้สามารถรับชมได้ที่ https://www.globenewswire.com/NewsRoom/AttachmentNg/982d222e-d193-4c43-a508-d3621411c300